ตุลาคม 23, 2019

การเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์

การเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์

การขับขี่บนท้องถนนนั้นอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อาจเกิดขึ้นกับเราหรือกับคนอื่น การมีกล้องติดรถยนต์ไว้บันทึกภาพทุกการเดินทางของเราเป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะช่วยเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ว่าใครเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายผิด ซึ่งภาพจากกล้องวิดีโอจะเป็นตัวช่วยของเราได้ การเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ ควรจะพิจารณาจากอะไรบ้าง

ความละเอียดของวิดีโอ

โดยความละเอียดของตัวกล้องติดรถยนต์ควรจะเป็นแบบ Full HD(1080p) หรือ HD(720p) ด้วยค่าความละเอียดเท่านี้สามารถให้ภาพออกมาชัดเจน และมากพอที่จะให้เห็นรายละเอียดต่างๆได้ชัด ช่วยให้เราสามารถรู้ไปเลยว่าเหตุการณ์ใครผิดใครถูก แต่การที่จะได้มาซึ่งความละเอียดระดับ Full HD หรือ HD แท้ๆนั้น มีองค์ประกอบหลักนั่นคือ เลนส์ และชิปประมวลผล ซึ่งทั้สองสิ่งนี้จะทำงานควบคู่ไปด้วยกัน

เพราะฉะนั้น กล้องติดรถยนต์รุ่นไหนที่มีการระบุสเปกที่ชัดเจนไปจนถึงเลนส์และรุ่นของชิปที่ใช้ประมวลผลที่ใช้ เราสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปค้นหาใน Google เราก็จะรู้ได้เลยว่าชิปประมวลผลรุ่นนี้สามารถรองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD หรือ HD ได้จริงหรือไม่

ค่า FPS ต้องสูง

ภาพคมชัด แต่เคลื่อนไหวไม่สมูทก็คงจะไม่ดี เพื่อที่จะให้ได้การถ่ายวิดีโอทำงานได้อย่างลื่นไหลและสมจริง จะขาดไม่ได้เลยก็คือค่า FPS หรือ Frame Per Second ซึ่งก็คือ อัตราเฟรมภาพต่อวินาที ซึ่งเป็นหน่วยวัดการบันทึกภาพนิ่งของภาพเคลื่อนไหวในกล้องวิดีโอต่อ 1 นาที เช่น 25 FPS หมายถึง ใน 1 วินาที จะมีภาพนิ่งที่ถูกบันทึกต่อเนื่องกัน 25 ภาพ แน่นอนว่ายิ่งค่า FPS มากก็จะส่งผลให้ภาพเคลื่อนไหวที่ได้มีความต่อเนื่อง ดูลื่นไหลน แต่ถ้าค่า FPS ต่ำก็จะส่งผลให้ภาพเคลื่อนไหวดูกระตุกไม่ต่อเนื่อง สำหรับกล้องติดรถยนต์แล้ว ค่าเฉลี่ยนของ FPS ที่ดีนั้นจะต้องอยู่ที่ประมาณ 25 (HD ) – 30 (Full HD) เท่านั้น โดยไม่ควรจะมากหรือน้อยไปกว่านี้ แต่ถ้าค่า FPS สูงมากเกินไป จะทำให้กินพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้นนั่นเอง

ถ่ายวิดีโอต้องสวยในเวลากลางคืนหรือสภาวะที่มีแสงน้อยได้ดี

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่รวมแม้กระทั่งกลางคืน หรือจะเป็นตอนที่มีแสงน้อย เพราะฉะนั้นการใช้งานกล้องติดรถยนต์ในตอนกลางคืนหรือตอนสภาวะที่มีแสงน้อยก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งตัวช่วยที่จะทำให้การเก็บภาพในเวลากลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพควรจะต้องมีฟังก์ชัน WDR (Wide Dynamic Range) ซึ่งการทำงานของ WDR คือการบันทึกภาพซ้อนในเวลาเดียวกัน โดยภาพนึงจะบันทึกในสภาวะปกติ และอีกภาพจะบันทึกภาพโดยทีมีแสงมากกว่าสภาวะปกติ และนำภาพที่บันทึกทั้งสองมาซ้อนกัน ช่วยให้กล้องเก็บรายละเอียดภาพได้มากกว่าการบันทึกปกติ ดังนั้น กล้องติดรถยนต์ควรจะมีค่า WDR เพื่อให้ช่วยให้การจับภาพในตอนกลางคืนได้คมชัดและสวยขึ้นแม้แสงจะน้อยก็ตาม

รูรับแสง

รูรับแสง ของกล้องติดรถยนต์มีความหมายเดียวกันกับของกล้องถ่ายรูป ซึ่งตัวรูรับแสงเป็นตัวควบคุมปริมาณแสงให้เข้ามาในกล้องหรือที่เรียกกันว่า F/Stop โดยค่า F น้อย รูรับแสงกว้าง แสงเข้าได้มาก ภาษากล้องจะเรียกว่า ชัดตื้น คือให้ช่วยระยะชัดของภาพน้อย จะให้ภาพที่คมชัดมากที่สุดตรงจุดโฟกัส ในขณะที่ค่าตัวเลข F มาก รูรับแสงแคบลง แสงเข้าได้น้อย ภาษากล้องเรียกว่า ชัดลึก คือให้ช่วงระยะชัดของภาพมาก ภาพที่ได้จะคมชัดเท่ากันทั้งภาพ

มุมมองของกล้อง

มุมมองของกล้องก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ การที่มีมุมกล้องกว้างมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดีไปเสียหมด มุมแคบเกินไปก็เห็นไม่ชัด มุมกล้องควรที่จะอยู่ตรงกลางพอดีที่ใช้งานได้จริง มุมมองของกล้องที่ติดรถยนต์ควรจะเป็นเลนส์กล้อง Fish Eye ซึ่งได้ภาพที่มีลักษณะนูนออกมาด้านหน้า เพื่อเก็บภาพในส่วนของด้านข้างได้กว้างขึ้นทั้งบนล่างและซ้ายขวานั่นเอง

ระบบ G-Sensor ต้องมี

เบรกรถกะทันหัน รถเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุอะไรก็ตามแต่ แน่นอนว่ามันจะต้องมีแรงสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกเกิดขึ้น ระบบ G-Sensor (หรืออาจจะมาในชื่อเรียกอื่น) ที่ติดมากับกล้อง จะทำหน้าที่ตรวจจับแรงสั่นสะเทือน หรือแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มาเพื่อทำการล็อกไฟล์วิดีโอที่บันทึกอยู่ในช่วงเวลานั้น เพื่อแยกออกมาเก็บเป็นไฟล์พิเศษต่างหากจากช่วงเวลาที่บันทึกปกติ และจะถูกป้องกันไม่ให้ช่วงเวลาดังกล่าวถูกบันทึกวนซ้ำเมื่อหน่วยความจำเต็ม ถึงแม้ลบด้วยคอมพิวเตอร์ก็ทำไม่ได้ ต้องฟอร์แมตการ์ดความจำสถานเดียวจึงจะลบออกได้ ทำให้เรานำมาตรวจสอบย้อนหลังได้สะดวกไม่เสียเวลา ระบบนี้จึงมีความสำคัญและถือเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่กล้องติดรถยนต์ต้องมีนะครับ

แบตเตอรี่

กล้องติดรถยนต์ที่มีทั้งรุ่นแบตเตอรี่ในตัว สามารถจ่ายไฟให้ตัวเองใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อไฟจากที่จุดบุหรี่ สะดวกเวลาใช้งานโดยที่ไม่ต้องต่อไฟเพิ่มกับกล้องอีกแบบ ที่ไม่มีแบตเตอรี่ในตัวแต่จะมีคาปาซิเตอร์เป็นตัวเก็บประจุไฟ ทำหน้าที่เสมือนแบตเตอรี่สำรองเท่านั้นโดยจะค่อยๆ ปล่อยกระแสไฟออกมาอย่างช้าๆ เพื่อให้กล้องรถยนต์บันทึกวิดีโอได้เสร็จสมบูรณ์เมื่อดับเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้วิดีโอที่บันทึกเสียหาย แต่ไม่สามารถจ่ายไฟให้กล้องติดรถยนต์ทำงานได้เหมือนแบตเตอรี่

โดยปรากฎว่ากล้องที่ไม่มีแบตเตอรี่ในตัวจะมีดีอยู่มากกว่า โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแบตเตอรี่เสื่อม แบตเตอรี่บวมให้กวนใจเลยก็ว่าได้

การรับประกันสินค้า

กล้องติดรถยนต์เป็นอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถใช้สโลแกนที่ว่า คุณภาพตามราคา น้อยนักที่กล้องติดรถยนต์ที่มีราคาถูกจะมีคุณภาพดี รวมไปถึงความทนทานในการใช้งานจริงด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ควรจะซื้อที่มีการรับประกันสินค้า เพราะเมื่อเสียขึ้นมาอย่างน้อยก็สามารถที่จะส่งซ่อม หรือส่งเคลมได้ มิใช่เสียแล้วต้องทิ้งไปเลย

ที่มา : aripfan